โคค่อน ณ หนองจอก ตอนที่ 14 รอบๆมัสยิดอินดารุลมีนา สัมผัสชุมชนข้างเคียง และโรงเรียนมุสลิมที่เรียบง่ายเรียบร้อย ก่อนอำลาเขตหนองจอก ... ตอนสุดท้ายแล้วครับ กว่าจะถึงตอนนี้ก็คงแผ่วทั้งคนโพสคนดู แต่ไหนๆก็โพสแล้วก็ขอให้ครบถ้วนกันไปเลยแล้วกันนะครับ ... จากที่คราวก่อนเราได้ดูมัสยิดกันบ้างแล้ว คราวนี้เราจะมากันอีกที่ นั่นก็คือมัสยิดอัลดารุลมียา ที่มีสีฟ้าทั้งหลังกับโดมสีน้ำเงิน เคียงคู่กับฟ้าครามสุดเข้มของบ่ายที่ฟ้าแจ่มใส ถ้าไม่เห็นภาษาไทย ผมอาจโมเมว่าได้ไปเที่ยวเมืองอาหรับซะแล้ว ... กลับมาสู่ความเป็นจริงอีกรอบว่าเรายังอยู่ในไทย นี่เป็นอาคารเรียนครับ ... ยืนยันความเป็นไทยอีกสักนิด แต่ถึงยังไงอักษรอารบิกก็แสดงตัวตนของเค้าชัดเจนเช่นกัน ... ต่อจากนั้นก็เดินลัดเลาะเข้าสู่คลองแสนแสบ คลองสายหลักของเมืองนี้ ... เมื่อหันย้อนกลับไปทางทิศตะวันตก ก็ได้ภาพย้อนแสงแบบนี้ ยิ่งใหญ่ดีนะครับ ... ให้ดูภาพรวมของทางเดินที่ผมเดินอยู่หน่อย ผมว่าที่นี่มีสิ่งแวดล้อมที่ดีต่อความรู้สึกจังเลย ดูเป็นชีวิตที่สงบสุขดี ... น้ำริมคลองก็เป็นประมาณนี้ ขุ่นๆแต่นุ่มนวล ไม่ดำเขรอะมีขยะลอยแพ ... ช่วงนี้เด็กๆพึ่งเลิกเรียนครับ เลยเริ่มเดินกลับบ้านกันล่ะ น่ารักดี ... เดินลุยผ่านสะพานแบบนี้ด้วยความเสียวนิดๆ แต่จะว่าไปคนแถวนี้คงเดินผ่านทางแบบนี้จนเคยชิน ... กิ่งไม้ที่กองอยู่ริมน้ำ กับเงาสะท้อนฟ้าใส ... บริเวณนี้มีชุมชนริมน้ำซึ่งที่จริงแล้วมันไม่ควรมีสร้างแหละนะ (อาจารย์บอก) ... เหมือนจะคล้ายสลัม แต่ก็ยังดูมีความเป็นอยู่ดีกว่าสลัมในเขตเมืองที่เสื่อมโทรม ... รายละเอียดของการใช้ชีวิตอยู่ สะท้อนแดดจ้าของวันนี้ ... ปศุสัตว์...เป็นสิ่งที่พบได้จนถึงช่วงสุดท้ายของวัน ... มีของตากอยู่ด้วยล่ะ ถาดที่เต็มไปด้วยสีสันนี้เป็นเป้าของการถ่ายรูปได้เป็นอย่างดี ... ทางเดินริมน้ำ กับชีวิตที่ผูกพันกับน้ำ ... เด็กๆกลุ่มเดิมกับภาพก่อนหน้านี้ครับ เพราะเค้าเดินมาช่วงที่กลุ่มผมกำลังเดินสำรวจอยู่ ที่จริงแล้วมีคนอยู่กันเยอะเลยไปขวางที่น้องเขา ก็มีพยายามบอกเพื่อนๆให้ช่วยๆกันหลบ แต่น้องเขาก็อุตส่าห์เดินอ้อมไปตรงที่เดินยากกว่าเลย ซึ่งผมก็ทึ่งนะเพราะทางเดินมันแคบมาก แต่คนถิ่นก็คงคุ้นเคยอยู่แล้ว ... พอมาถึงที่ปลายทาง ก็ได้เห็นภาพนี้ ไม่รู้ว่ากำลังจะสร้างอะไร แต่ก็หวังว่า้มันจะไม่ใช่เป็นอะไรที่ทำลายสมดุลย์ของชุมชนเลยนะ ... เดินจนไปต่อไม่ได้แล้วก็เดินย้อนกลับทางเดิม ... รายละเอียดข้างทาง ที่ดูแล้วมันต่างจังหวัดชัดๆ ... แล้วก็กลับมาสู่ปลายตาที่เป็นมัสยิดอีกครั้ง พร้อมพระอาทิตย์ทีเ่คลื่อนต่ำลงมา ... กลับมาที่โรงเรียนมัสยิด แล้วก็เจอน้องๆเด็กประถมมุสลิม มีถอดรองเท้าในบริเวณอาคารด้วยล่ะ แต่ของที่นี่ไม่ใส่ถุงเท้าด้วยแฮะ ซึ่งทำให้ผมนึกถึงสมัยตอนเรียนประถมในโรงเรียนที่ให้ถอดรองเท้าเช่นกัน ถุงเท้าดำปี๋เลย ดังนั้นสำหรับที่นี่ การไม่ใส่ถุงเท้าอาจจะเหมาะกว่าก็ได้ เพราะเห็นถอดตั้งแต่พื้นนอกอาคารเลย น้องๆดูมีความสุขดีแฮะ เห็นแล้วแอบคิดถึงวัยประถม ช่วงเวลาที่เราใช้ชีวิตไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่ จะว่าไป น้องๆเด็กมุสลิมที่หนองจอกเค้าดูเรียบร้อยดีนะ สังเกตตั้งแต่ที่ผ่านๆมาแล้ว อย่างน้อยโรงเรียนมุสลิมจะมีเสียงโหวกเหวกน้อยกว่าอย่างรู้สึกได้ ... เดินออกมาเรื่อยๆ ก็เห็นนักเรียนทยอยกลับบ้านกัน ... และแล้วก็ถึงภาพสุดท้ายของเซ็ตหนองจอกครับ ผมคิดว่าภาพนี้ก็เหมาะสมที่จะเป็นบทสรุปของความรู้สึกของผมที่มีต่อหนองจอก ... หนองจอกเป็นเขตที่มีความเรียบง่าย สมถะ สงบ แล้วก็มีความน่ารักแฝงอยู่ ผมรู้สึกว่าที่นี่โชคดีแล้วล่ะที่อยู่ห่างจากอิทธิพลของเมืองใหญ่ เลยทำให้ยังคงความบริสุทธิ์ได้มากพอดู โดยไม่ต้องพึ่งนโยบายของทางรัฐ (ซึ่งก็โชคดีแล้วแหละ เพราะถ้าทางรัฐมาจัดการทีไรผมก็เห็นแต่ความเละมากกว่า) ... ถ้าใครอยากลองสัมผัสบรรยากาศแบบนี้ด้วยตัวเอง ลองหาเวลาไปเยี่ยมเยือนดูสิครับ แล้วจะพบว่า หนองจอก...น่ารักกว่าที่คิด |